วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง                     รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย 
                               เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
                               ของโรงเรียนชุมชนบ้านวังพิกุล
ผู้ศึกษา                      นางพรทิพา  เพ็งหมู
ปีการศึกษา                2559


          การรายงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย  คือ1)เพื่อหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมการเรียนรู้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2โดยเทียบเกณฑ์ 80/80  2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนเมื่อใช้นวัตกรรมการเรียนรู้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2   3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1ของโรงเรียนชุมชุนบ้านวังพิกุลสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2559จำนวน 32 คน 1 ห้องเรียนได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ได้แก่  1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 22) แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2จำนวน 4 ชุด  3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวเป็นแบบเลือกตอบชนิด4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ  4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 18 ข้อวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติพื้นฐานได้แก่ ร้อยละ  ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้สถิติทดสอบที (t-test แบบ Dependent)
             ผลการศึกษาปรากฏ  ดังนี้
               1.  ประสิทธิภาพของนวัตกรรมการเรียนรู้ของแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2มีประสิทธิภาพ เท่ากับ85.00/85.63ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
                   2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน  ภายหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ก่อนเรียนและหลังเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
                  3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยกลวิธีที่หลากหลาย เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2อยู่ในระดับมาก(= 4.24, S.D. = 0.16)